Smartfinn เหมาะกับผู้ต้องการเงินทุนประเภทใด?
- SMEs ที่ต้องการขยายธุรกิจ แต่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนของสถาบันการเงินได้
- SMEs ผู้ที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินและมีปัญหาภาระหนี้สินในระบบเต็มวงเงินและไม่สามารถกู้เพิ่มกับสถาบันการเงินได้
- SMEs ที่ต้องการเงินทุนเร่งด่วน เพื่อใช้ในธุรกิจ
- SMEs ที่ปัจจุบันเป็นหนี้นายทุนนอกระบบดอกเบี้ยสูง ต้องการลดอัตราดอกเบี้ย
- ถ้าอสังหาริมทรัพย์ที่ถือครองติดจำนอง หรือติดภาระ ต้องมีภาระหนี้คงค้างน้อยกว่า 50% ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์
* SMEs หมายถึง ผู้ดำเนินธุรกิจส่วนตัว ขนาดเล็กไปถึงขนาดกลาง
ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
หลักการขายฝากกับ Smartfinn
เนื่องจากสมาร์ทฟินน์ เป็นแพลตฟอร์มเชื่อมโยงระหว่างนักลงทุน ดังนั้นอัตราดอกเบี้ยและราคาขายฝาก
ขึ้นกับความน่าสนใจของหลักทรัพย์ค้ำประกันที่นำมาขายฝาก
โดยมีราคาประเมินจากบริษัทประเมินมูลค่าที่อยู่ในการดูแลของ กลต. เป็นตัวอ้างอิง
และผู้ขายฝากมีค่าใช้จ่ายดังนี้
อสังหาริมทรัพย์ที่นำมาขายฝาก จะต้องประเมินจากบริษัทประเมินมูลค่าที่อยู่ในการดูแลของ กลต.
เพื่อทราบมูลค่าซื้อขายที่แท้จริง ทางสมาร์ทฟินน์สามารถแนะนำบริษัทพันธมิตรได้
และเจ้าของทรัพย์ชำระค่าประเมินโดยตรงกับบริษัทประเมินดังกล่าว
แต่หากเจ้าของทรัพย์ได้เคยนำอสังหาริมทรัพย์นั้นประเมินมูลค่ากับบริษัทประเมินมูลค่าที่อยู่ในการดูแลของ
กลต. ภายใน 6 เดือน ก็สามารถนำมาอ้างอิงได้
ดอกเบี้ยของสมาร์ทฟินน์ เริ่มต้นที่ 9% ต่อปี จนถึง 12% ต่อปี
ขึ้นกับคุณภาพของอสังหาริมทรัพย์ในมุมมองของนักลงทุน โดยผู้ขายฝากจะจ่ายดอกเบี้ยล่วงหน้าปีต่อปี ณ
วันที่ทำสัญญาและต่อสัญญาที่กรมที่ดิน
ค่าทำนิติกรรมของกรมที่ดิน ผู้ขายฝากเป็นผู้ชำระตามจริงที่กรมที่ดิน ทั้งค่าธรรมเนียมการขายฝาก
การไถ่ถอน และการต่ออายุสัญญาโดย หากผู้ขายฝากไม่มีเงินสดเพียงพอ
ทางสมาร์ทฟินน์สามารถประสานให้หักค่านิติกรรมออกจากยอดเงินขายฝาก ณ วันทำนิติกรรมได้
ค่าบริการของ Smartfinn อยู่ที่ 3.99% ของราคาขายฝาก (ราคานี้ยังไม่รวม VAT) โดยมีค่าบริการขั้นต่ำที่ 45,000 บาท
อสังหาริมทรัพย์ติดภาระอื่นใดอยู่ (เช่น ขายฝาก จำนอง ผ่อนกับเจ้าหนี้รายอื่น)
สามารถย้ายมาขายฝากกับสมาร์ทฟินน์ได้หรือไม่ ?
ในกรณีที่อสังหาริมทรัพย์ติดภาระอื่นใดอยู่ (เช่น ขายฝาก จำนอง ผ่อน) กับสถาบันการเงินหรือนายทุนนอกระบบ
ต้องมีภาระหนี้คงค้างน้อยกว่า 50% ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์
เมื่อได้เงินทุนที่ได้จากการขายฝากกับสมาร์ทฟินน์ จะถูกนำไปชำระหนี้ส่วนที่ติดภาระเหล่านั้น
เพื่อไถ่ถอนเปลี่ยนผู้ถือครองอสังหาริมทรัพย์ให้กลับเป็นของผู้ต้องการเงินทุนก่อนทำการขายฝาก
กรณีนี้ผู้ขายฝากสามารถลดภาระดอกเบี้ยและเพิ่มระยะเวลาขายฝากจากเดิม
และเงินส่วนเกินจากการไถ่ถอนจากนายทุนเดิม ผู้ขายฝากสามารถนำไปต่อยอดธุรกิจได้
ระยะเวลาดำเนินการเฉลี่ยในการประเมินมูลค่าและหานักลงทุน นานไหม ?
โดยเฉลี่ย 10-15 วันทำการ ขึ้นกับระยะเวลาเข้าประเมินอสังหาริมทรัพย์ และ ความน่าสนใจกับนักลงทุน
สิทธิการเช่า ใบจอง สามารถนำมาขายฝากได้หรือไม่ ?
ไม่สามารถนำมาขายฝากได้ เนื่องจากทรัพย์สินที่นำมาขายฝากต้องเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ขายฝาก
กรณีไถ่ถอน
ไถ่ถอนระยะเวลาตรงตามสัญญา
เมื่อจะถึงกำหนดการไถ่ทรัพย์คืน สมาร์ทฟินน์จะแจ้งเตือนล่วงหน้า 180 วัน
ให้ผู้ขายฝากเริ่มเตรียมเงินมาไถ่ถอนอสังหาฯของตน
โดยทางสมาร์ทฟินน์จะมีเจ้าหน้าที่ประสานงานให้ความสะดวกนัดนักลงทุนไถ่ถอนทรัพย์ที่กรมที่ดิน
ไถ่ถอนก่อนกำหนด
ผู้ขายฝากสามารถแจ้งทางสมาร์ทฟินน์ให้นัดนักลงทุนเพื่อไถ่ถอนทรัพย์ก่อนกำหนดได้ โดยแจ้งล่วงหน้า 7-15 วันทำการ
หากผู้ขายฝากไม่สามารถหาเงินมาไถ่ถอนได้ตามสัญญา ผู้ขายฝากสามารถแจ้งทางสมาร์ทฟินน์ล่วงหน้า 90 วัน ส่วนในกรณีไม่สามารถหาเงินมาไถ่ถอนได้ตามระยะเวลาสัญญา
โดยมอบหมายให้ทางสมาร์ทฟินน์เจรจาต่ออายุสัญญากับนักลงทุนเดิม
หรือหานักลงทุนรายใหม่เพื่อทำสัญญาขายฝากฉบับใหม่